• (+66) 081 359 5915

การเลือกไฟตั้งโต๊ะ (Table Lamps)

Posted by Lightman on 14/01/2012 / 0 Comment

ไฟตั้งโต๊ะ (Table Lamps) มีให้เลือกหลากหลาย ทั้งรูปร่าง ขนาด สไตล์ ที่แตกต่างกันออกไป แต่จุดเด่นของไฟตั้งโต๊ะชัดๆเลยก็คือ เราสามารถเคลื่อนย้ายได้สะดวก และติดตั้งได้เองโดยไม่ต้องใช้ช่างไฟ
วันนี้เราจะแนะนำการใช้งานไฟตั้งโต๊ะกันครับ

การเลือกใช้หลอดไฟ

  • การใช้หลอดไฟขนาดสูงสุดที่ตัวโคม (Shade) รับได้ จะช่วยเพิ่มความสว่างขึ้นได้มาก
  • ใช้หลอดประหยัดไฟในห้องนั่งเล่น ห้องครัว ห้องนอน ส่วนหลอดธรรมดาที่ให้แสงจ้า ใช้กับห้องเก็บของหรือที่จอดรถ
  • อย่าใช้ไฟสว่างเกิน เงามีความสำคัญไม่น้อยกว่าแสง ในการตกแต่งห้อง ไม่เช่นนั้นจะกลายเป็นมินิมาร์ทไปหมดทั้งบ้าน
  • อย่าใช้หลอดไฟขนาดเกินที่ระบุ โดยเฉพาะโคมประเภทเส้นไหมหรือเส้นไยโปร่งๆ เพราะนอกจากจะทำให้โคมสีซีดเร็วแล้ว ยังจะทำให้มองเห็นหลอดไฟชัดเจนออกมาเป็นจุด ไม่สวยงาม

สีของโคม (Shade)

  • Shade สีอ่อนๆ ทำจากผ้า หรือกระดาษจะให้แสงเย็นนวลตาและให้แสงเป็นสีจากตัวโคม
  • ถ้าอยากได้บรรยากาศเรืองแสงเท่ๆ ให้ใช้ Shade สีเข้ม เช่นดำ ช็อโกแล็ต หรือ ม่วง
  • ระวัง Shade ที่มองทะลุเห็นหลอดไฟ เพราะจะดึงบรรยากาศในห้องไป (สายตาคนจะมุ่งไปหาจุดที่สว่างที่สุดเสมอ) หากเป็นไปได้ ให้ลองใช้สีทองพ่นภายใน Shade

 รูปร่างและขนาดของ Shade

  • ใช้ไฟตั้งโต๊ะขนาดใหญ่จำนวนน้อย ดีกว่าขนาดเล็กจำนวนมาก
  • Shade ที่มีช่องเปิดด้านบนขนาดใหญ่ มีไว้เพื่อให้แสงทั้งบนและล่าง เหมาะกับการให้ความสว่างห้องโดยรวม ส่วน Shade ที่มีช่องบนขนาดเล็ก หรือปิดเลยนั้น จะจัดแสงลงมาด้านล่าง เหมาะกับการใช้ทำงาน หรืออ่านหนังสือ
  • Coolie Shade (ดูรูปร่างจากภาพประกอบด้านล่าง) เป็นแบบดั้งเดิม มุมของ Shade จะทำให้แสงส่วนใหญ่ตกลงไปด้านล่าง ดังนั้นหากจะให้มีแสงมากๆ จะต้องใช้ Shade ใหญ่มากตามไปด้วย
  • Drum Shade (รูปกลอง) ให้แสงทั้งล่างและบน ซึ่งจะเพิ่มแสงสว่างในห้อง โดยที่ให้แสงสว่างในการอ่านหนังสือหรือทำงานได้ด้วย Shade รูปแบบนี้จะเหมาะกับการเน้น พื้นผิววัสดุของตัว Shade เองด้วย
  • Oval Shade (รูปไข่) จะให้ผลเหมือน Drum Shade แต่จะสามารถใช้กับพื้นที่แคบได้
  • Eye Shape Shade (รูปดวงตา) มองจากด้านบนเป็นรูปดวงตา ให้แสงทั้งด้านบนและด้านล่าง เหมาะกับการวางบนโต๊ะหน้าแคบ หรือโต๊ะตรงทางเดิน แต่ให้แสงสว่างไม่มากนัก
  • Cylinder (ทรงกระบอก) เหมาะกับการเป็นไฟตกแต่ง หรือใช้เน้นความสนใจ (Accent Light) เพราะให้แสงที่แคบ
  • Conical (ทรงโคน) ให้แสงมุมแคบมากลงด้านล่าง ใช้ทำงานได้ในที่ใกล้ๆเท่านั้น
  • Square & Tapered Square (จตุรัส) ให้แสงได้ดีทั้งด้านบนด้านล่าง และมักจะจัดวางไว้มุมห้อง ให้แสงสว่างใช้งานได้ดีกว่ารูปโคน
  • Rectangle & Tapered Rectangle (ผืนผ้า) ให้ความ modern แก่ห้อง มักจะใช้กับบาร์ หรือโต๊ะข้าง

 จำนวนของไฟตั้งโต๊ะ

ไฟตั้งโต๊ะนั้น จุดประสงค์หลักๆไม่ใช่การให้แสงสว่างทั่วห้อง แต่เป็นการเสริมแสงสว่างให้กับห้อง ดังนั้นไม่ควรมีจำนวนมากในพื้นที่หนึ่งๆ (2-3 ตัวก็พอแล้ว)

เราลองมาดูความสูงของไฟตั้งโต๊ะกันบ้าง

ความสูงของไฟตั้งโต๊ะในห้องนั่งเล่น

  •  ความสูง 26-34 นิ้ว หรือ 60 - 90 cm โดยมีหลักการเลือกง่ายๆคือเมื่อเรานั่ง ให้ขอบล่างของ Shade อยู่ที่ระดับสายตาพอดี
  • การจัดวาง เพื่อให้แสงสว่างทั้งแสงทั่วไป และแสงทำงาน การจัดวางควรทำให้อยู่ในลักษณะที่เมื่อเรานั่งแล้วได้แสงเหมาะสมทำได้โดย
    1. วางไฟตั้งโต๊ะไว้ถัดจากตัวเราพอดี
    2. วางไว้ 10 นิ้ว (30 cm หลังไหล่)
    3. ใกล้กับขอบหลังของที่นั่งเช่นเก้าอี้ หรือ โซฟา

ความสูงของไฟตั้งโต๊ะในห้องนอน

  • ความสูง ให้ดูความสูงของหัวเตียงเป็น guide หัวเตียงสูงควรใช้ไฟสูงตามไปด้วย หรือจะใช้ความสูงของโต๊ะหัวเตียงเป็น guide ก็ได้ ตัวอย่างเช่น โต๊ะหัวเตียงสูง 24-30 นิ้ว (60-76 cm) ควรใช้ไฟสูง 27-32 นิ้ว (70-80 cm) แต่ถ้าโต๊ะต่ำกว่านั้น ควรใช้ไฟสูงขึ้นอีก เพื่อให้ไฟอยู่สูงจากโต๊ะอย่างน้อย 36 นิ้ว (90 cm)
  • ความกว้างของ Shade ไม่ควรเกิน 1 ใน 3 ของขนาดโต๊ะหัวเตียง ไม่งั้นเวลาจะหยิบอะไร หัวจะโขกไฟ
  • การจัดวาง พยายามให้ขอบล่างของ Shade สูงจากจุดที่ต้องใช้แสงอย่างน้อย 20 นิ้ว (50 cm) ให้แสงตกจุดที่คุณจะใช้ ไม่ใช่ตกที่ตาของคู่นอนนะจ๊ะ

Free shipping

ส่งฟรีทั่วไทย ไม่มีขั้นต่ำ
 

Price Match

เจอถูกกว่ารับส่วนต่างไปเลย
 

081 359 5915

24/7 customer care available